ควาญวัวหรือคนเลี้ยงวัวชน วัวชนจะเก่งหรือไม่เก่ง มีความพร้อมที่จะชนมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่คนเลี้ยงเป็นปัจจัยหลัก
เมื่อได้วัวที่จะนำมาเป็นวัวชนตามลักษณะที่ต้องการแล้วจึงสำคัญส่วนหนึ่งของการเลี้ยงวัวชนก็คือคนเลี้ยงหรือที่โดยภาษาวัวชนทั่วไปอาจจะเรียกว่า ควาญวัว เพราะวัวชนจะเก่งไม่เก่งมีความพร้อมที่จะชนมากน้อยแค่ไหนอยู่ที่คนเลี้ยงเป็นปัจจัยหลักก็วัวชนเป็นวัวที่ไม่ได้ถูกเลี้ยงตามธรรมชาติไม่ได้หากินเอง แต่จะต้องมีคนเลี้ยงคอยหายากหาน้ำ ซึ่งจะต้องเลือกอาหารที่จะให้วัวกินหญ้าเขาจะเป็นยาที่ดีน้ำที่สะอาดมีการดูแลรักษาอย่างดี มีการฟิตซ้อมโดยการวิ่งการซ้อมชนดินต้องมีนำวัวมาตากแดด เมื่อเกิดความอดทนต้องนำเอาไปซ้อมต้องพักวัวให้มีการพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นวัวชนตัวหนึ่งจะดังมีความพร้อมที่จะชนได้ส่วนหนักแล้วคือคนเลี้ยงที่จะต้องมีจิตใจมีความรักมีความชอบที่จะดูแลเป็นเหมือนเพื่อนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของครอบครัว จากการสังเกตและการศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับวัวชนโดยเฉพาะของอาคม เดชทองคำ ได้กล่าวถึงการเลี้ยงดูวัวชนไว้ดังนี้ เปรียบเหมือนการปรนนิบัติในฐานะหุ้นส่วนชีวิตรายใหญ่ เมื่อวัวตัวใดที่ผ่านการคัดเลือกคุณสมบัติด้านต่าง ๆ จนเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างเอาใจอย่างพิถีพิถันมากกว่าวัวทั่วไปในทุกด้าน ชนิดที่ยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอม การกินอยู่หลับนอน การออกกำลังกาย การทำความสะอาดร่างกาย การคอยปัดป้องตบตีริ้นไรและแมลงทุกประเภทที่จะมากัดกินทำร้ายวัวชน จนทำให้คนบางคนที่ไม่ชอบกีฬาชนิดนี้มักจะพูดเหน็บแนม ประชดประชันให้ได้ยินอยู่เสมอว่า เลี้ยงดูเอาใจใส่วัวชนยิ่งกว่าลูกเมียเสียอีก แท้จริงน่าจะไม่ถูกทั้งหมดเพราะคนกับวัวแตกต่างกันทั้งสถานภาพและวัตถุประสงค์ชื่อลูกและเมียไม่ได้เลี้ยงไว้เพื่อชน วิธีการในการเลี้ยงวัวชนนอกจากเจ้าของเลี้ยงด้วยใจรักแล้วก็จะมีวิธีการมีสูตรในการที่จะทำให้วัวสมบูรณ์แข็งแรงหรือเมื่อวานบาดเจ็บก็สามารถรักษาตัวให้หายได้อย่างรวดเร็ว การเลี้ยงวัวชนก่อนติดคู่ชนการเลี้ยงดูวัวชนผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างพิถีพิถันเป็นพิเศษในทุกเรื่องทั้งนี้เพราะเป้าหมายคือการเอาชนะคู่ต่อสู้เป็นสำคัญ ดังนั้นผู้เลี้ยงวัวชนจะต้องขยันหมั่นเพียรและมั่นคงในวัดปฏิบัติในรอบ 1 วันดังนี้การออกกำลังกายผู้เลี้ยงจะต้องนำออกไปเดินจากสถานที่ต่าง ๆ เรียกว่าการเดินวัวนิยมกว่าทำการตั้งแต่เช้าตรู่ถึง 8 โมงเช้า ในช่วงเวลาเช้า และจะเริ่มเวลา 4 โมงเย็น เป็นต้นไปจนถึง 5 โมงเย็น ในช่วงบ่ายโดยประมาณการเดินวัว ในช่วงบ่ายจะใช้เวลาและระยะทางที่สั้นกว่าช่วงเช้า การเดินวัวจะเดินไปตามเส้นทาง 2 ลักษณะคือตามถนนดินเหนียวหรือดินทรายพื้นที่ว่างเปล่า หรือทุ่งนาที่พึ่งจะมีตามสภาพแวดล้อมของแต่ละสนามในกรณีที่สนามวัวชนบางแห่งถูกปิดล้อมด้วยอาคารบ้านเรือนทางสนามก็จะจัดสถานที่ไว้ให้เป็นการเฉพาะ จะเห็นได้ว่าเมื่อถึงเวลาเดินมาทั้งเช้าและบ่ายถนนรอบรอบสนามมวลชนก็จะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเดินวัว เดินสวนทางกันขวักไขว่ ทั้งเข้าและออกส่วนใหญ่จะได้ระยะทางใกล้หรือไกลเท่าใดขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียรของคนเลี้ยง
